รอยโรคตาที่พบได้บ่อยในสัตว์เลี้ยง

รอยโรคตาที่พบได้บ่อยในสัตว์เลี้ยง
ดวงตาเป็นอวัยวะสำคัญที่ช่วยให้สัตว์เลี้ยงของเรามองเห็นและใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ แต่ “โรคตา” ก็เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในทั้งสุนัขและแมว ซึ่งหากปล่อยไว้อาจรุนแรงจนถึงขั้นตาบอดได้ มาทำความรู้จักรอยโรคตาที่มักพบ พร้อมอาการที่ควรระวังกันครับ
ต้อกระจก (Cataract)
ลักษณะ: เลนส์ตาขุ่น แสงผ่านได้น้อย
อาการที่สังเกตได้: ดวงตาขาวขุ่นด้านใน มองเห็นลดลง ชนสิ่งของบ่อย
สาเหตุ: พบได้ในสัตว์เลี้ยงสูงอายุ หรือในบางรายอาจเกิดจากพันธุกรรมหรือโรคเบาหวาน
คำแนะนำ: หากสังเกตเห็นตาขุ่น ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจระดับการมองเห็น เพราะหากเป็นมากอาจต้องผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ตา
ต้อหิน (Glaucoma)
ลักษณะ: ความดันในลูกตาเพิ่มสูง
อาการ: ตาขาวขุ่นด้านนอก ตาโปน สูญเสียการมองเห็น หรืออาจมีอาการเจ็บตา
ผลกระทบ: ความดันที่สูงจะทำลายเส้นประสาทตาอย่างถาวร
คำแนะนำ: โรคนี้ต้องได้รับการรักษาเร่งด่วน เพราะหากปล่อยไว้นานจะทำให้ตาบอดถาวร
แผลที่กระจกตา (Corneal Ulcer)
ลักษณะ: เกิดจากการกระแทก การติดเชื้อ หรือการระคายเคืองที่ผิวกระจกตา
อาการ: กระพริบตาบ่อย เจ็บตา กลัวแสง ตาแดง น้ำตาและขี้ตาเยอะ
คำแนะนำ: ห้ามใช้ยาหยอดตาเองโดยไม่ทราบชนิด เพราะบางตัวยาอาจทำให้แผลลึกและรุนแรงขึ้น ต้องให้สัตวแพทย์ตรวจและหยอดยาตามสาเหตุ
เยื่อบุตาอักเสบ (Conjunctivitis / ตาแดง)
ลักษณะ: เยื่อบุตาขาวบวม แดง
อาการ: เจ็บตา ระคายเคือง น้ำตาและขี้ตาเยอะ ตาแฉะ
สาเหตุ: อาจเกิดจากการแพ้ ฝุ่น เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือสิ่งแปลกปลอมในตา
คำแนะนำ: ควรรักษาความสะอาดรอบดวงตา และหากอาการไม่ดีขึ้นใน 1–2 วัน ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
เซอร์รี่อาย (Cherry Eye)
ลักษณะ: ต่อมใต้หนังตาที่สามบวมแดง จนพลิกปุ่มเนื้อออกมาให้เห็นชัด
อาการ: มีเนื้อสีชมพูหรือแดงโผล่บริเวณหัวตา ระคายเคือง ตาแฉะ
คำแนะนำ: มักพบในสุนัขพันธุ์เล็ก เช่น ชิสุ บูลด็อก บีเกิ้ล การรักษามักต้องใช้การผ่าตัดเพื่อนำต่อมกลับเข้าที่
...............................
สรุป
โรคตาในสัตว์เลี้ยงแม้ดูเหมือนเรื่องเล็ก แต่หากละเลยอาจร้ายแรงถึงขั้นตาบอดได้ การหมั่นสังเกตพฤติกรรม เช่น การกระพริบตาบ่อย เกาหรือขยี้ตา ตาแดง หรือมีขี้ตาเยอะผิดปกติ ควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์ทันที เพื่อให้เพื่อนขนฟูของเรากลับมามองโลกสดใสได้เหมือน