dogbite-Rabies
![](/media_file/blog_image/135/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99_6-3-67-02.png?1709712010)
ปลายปี 2566 พบการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในภาคใต้ และยังคงมีรายงานการติดเชื้อพิษสุนัขบ้าในบ้านเราอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสุนัข (รายงานการติดเชื้อในประเทศไทย http://www.thairabies.net/trn/home/detailreport) โรคนี้สามารถติดต่อได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดรวมถึงคน โดยส่งเชื้อผ่านทางน้ำลาย จากการกัด, เลียบริเวณแผล หรือเยื่อเมือก
เจ้าของต้องทำอย่างไรเมื่อสัตว์เลี้ยงโดนกัด
โรคพิษสุนัขบ้า เป็นโรคที่มีวัคซีนป้องกัน และเป็นวัคซีนหลักที่น้องหมาน้องแมวต้องฉีดทุกตัว โดยเริ่มฉีดครั้งแรกที่อายุ 12 สัปดาห์ และครั้งที่สองห่างจากครั้งแรก 2 – 4 สัปดาห์ หลังจากนั้นกระตุ้นซ้ำทุก 1 ปี ส่วนในสัตว์เลี้ยงชนิดพิเศษ เช่น กระต่าย หนูแฮมสเตอร์ การให้วัคซีนพิษสุนัขบ้า ควรพิจารณาให้วัคซีนตามความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อ พื้นที่การเกิดโรค และขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของสัตวแพทย์ เนื่องจากเป็นการใช้แบบนอกเหนือจากที่ระบุในฉลาก (extra-label use) ยกเว้น การให้วัคซีนใน Ferret ซึ่งจะเริ่มเข็มแรกที่อายุมากกว่า 3 เดือน และครั้งที่สองห่างจากครั้งแรก 3 – 4 สัปดาห์ หลังจากนั้นกระตุ้นซ้ำทุก 1 ปี
การฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าให้สัตว์เลี้ยง นอกจากจะเป็นการดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณแล้ว ยังเป็นการดูแลตัวคุณเองอีกด้วย
..............................
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรค : ใส่ลิงค์บทความ เรบีส์ (Rabies) โรคที่ไม่เคยหายไปจากสังคมไทย
ขอบคุณข้อมูลจาก คู่มือเวชปฏิบัติ เรื่องโรคพิษสุนัขบ้า ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2563